Pokemon ถือเป็นซีรีส์เกม และแบรนด์การ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ อันดับต้นๆ ของโลก โดยสำหรับตัวเกมนั้น Pokemon แทบจะไม่ได้กระโดดออกมาจากแพลตฟอร์มเกมของ Nintendo เลยสักครั้งเดียว (หมายถึงจักรวาลหลัก) ดังนั้นการมาถึง Pokemon Masters จึงค่อนข้างเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ แม้ว่าตัวเกมจะถูกปรับแก้จนไม่เหมือนตัวเกมในเวอร์ชั่นจักรวาลหลักเลยก็ตาม
“จักรวาลเดียวกับจักรวาลหลัก”
สิ่งหนึ่งที่ทีมงานออกมายืนยันก็คือ เรื่องราว หรือภูมิภาคในPokemon Masters นี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งในจักรวาลโปเกมอนจริงๆ ซึ่งเรื่องราวในPokemon Masters จะเกิดขึ้นที่เกาะซึ่งชื่อว่า Pasio ที่นี่มีวัฒนธรรมเกี่ยวกับโปเกมอนแตกต่างจากที่อื่นๆ อย่างชัดเจน สิ่งแรกเลยก็คือ เทรนเนอร์ 1 คนจะจับคู่กับโปเกมอนเพียง 1 ตนเท่านั้น โดยระบบการจับคู่นี้ของตัวเกมถูกเรียกว่า Sync Pairs ซึ่งนั่นคือการส่งผลให้การต่อสู้ของ libertinchatty
Pokemon Battle ที่นี่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ โดยจะเปลี่ยนจากการต่อสู้แบบ 1vs1 กลายเป็นการต่อสู้แบบทีม 3vs3 แทน และPokemon League ของที่นี่จะใช้ชื่อว่าPokemon Masters League เป็นการแข่งขันสุดพิเศษที่ใครต่อใครต่างก็ใฝ่ฝันจะได้ร่วมการแข่งขันนี้

“รวมตัวละครจากทุกภาค”
อีกสิ่งหนึ่งที่แฟนๆ จะต้องกรี๊ด ก็คือตัวเกมจะเป็นเกมแบบสุ่มกาชาปองแพ็คคู่ คน+โปเกมอน หรือก็คือ Sync Pairs ซึ่งได้รวมตัวละครจากทุกภาคเอาไว้ ไม่ว่าจะเหล่าตัวเอกต่างๆ ไปจนถึงตัวร้าย คนข้างทาง หรือพวก 4 จตุรเทพก็มา โดยเหล่าโปเกมอนของพวกเขาเอง ก็ถือเป็นเหล่าโปเกมอนที่เราน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาดีกันอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ตัวละครเหล่านี้มีโอกาสที่จะออกมาซ้ำ แต่จะเปลี่ยนเป็นเวอร์ชั่นอื่น (เสื้อผ้าไม่เหมือนกัน) ซึ่งก็จะมีโปเกมอนที่แตกต่างกันอีกด้วย แบ่งออกเป็น 3 คลาส คือ Strike, Support และ Tech slotxo
“ระบบต่อสู้เล่นง่าย เหมาะกับแพลตฟอร์มมือถือ”
หากทางทีมงานคิดที่จะหยิบระบบการต่อสู้ในโปเกมอนภาคหลักมาใช้กับPokemon Masters ผมว่ามันคงที่ใช้เวลาในการเล่นนานพอสมควรทีเดียว โดยในPokemon Masters ได้ทำการยกเครื่องระบบต่อสู้ใหม่ทั้งหมด โดยสิ่งแรกเลยคือการเปลี่ยนระบบต่อสู้มาเป็นแบบ Real-time Battle ที่เราจะต้องออกคำสั่งให้โปเกมอนของเราใช้ท่าใส่กันแบบ Real-time แต่จะมีตัวเกจสำหรับควบคุมการใช้ท่ามาเป็นตัวกำหนดอยู่อีกที นอกจากนี้ยังได้มีการเพิ่มระบบ Sync Move ใส่เข้ามาในการต่อสู้ ซึ่งถือเป็นท่าไม้ตายของโปเกมอนทุกตัวภายในเกม ที่ถ้าเราจะใช้ได้ ก็ต่อเมื่อเราใช้ท่า Move ทั่วๆ ไปจนถึงตามจำนวนที่กำหนดเอาไว้ ก่อเกิดเป็นระบบกลยุทธ์ในการเล่นที่ไม่ธรรมดารูปแบบหนึ่ง
ทั้งนี้ตัวเกมมีการปรับระบบการเล่นหลายๆ อย่างให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น หนึ่งในนั้นก็คือการชนะทางแพ้ทาง ที่ปรับให้เล่นง่ายกว่าเดิมมาก นอกจากนี้ตัวเกมก็ยังเป็นเกมที่เล่นง่าย ไม่มีค่าอะไรมาเป็นตัวกำหนด เราสามารถเข้าเล่นเกมได้ตลอดเวลา
“ระบบอัปเกรดไร้ข้อจำกัด”
สำหรับใครที่สงสัยเกี่ยวกับระบบการวิวัฒนาการของโปเกมอน ใน Pokemon Masters ระบบนี้ยังคงมีอยู่ แต่มันถูกปรับเปลี่ยนใหม่ ให้กลายมาเป็นระบบวิวัฒนาการตามเลเวลพื้นฐานที่กำหนดใช้แบบทั้งเกม โดยร่างที่ 2 ของโปเกมอนสามารถวิวัฒนาการได้ตอนเลเวล 30 และร่างที่ 3 ในเลเวล 45 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ใช่ว่าโปเกมอนทุกตัวจะวิวัฒนาการได้หมด ซึ่งตรงส่วนนี้จะขึ้นอยู่กับที่ระบบเป็นตัวกำหนดเอาไว้ เพียงแต่ว่าเพดานของโปเกมอนเรา เราสามารถอัปเกรดมันได้ตลอดเวลา คือไม่จำเป็นต้องรอเก็บเลเวลซะจนเต็มเพดาน แต่เราสามารถที่จะขยายเพดานเลเวลในตอนไหนได้ ขอเพียงมีไอเทมครบถ้วนก็พอ
นอกจากนี้โปเกมอนของเราจะมาพร้อมกับสกิลเพียง 2 สกิลเท่านั้น เราจำเป็นต้องปลดล็อคสกิลทั้งหมดของโปเกมอนด้วยตัวเอง รวมไปถึง Passive Skill ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เราต้องปลดล็อคให้กับโปเกมอนของเรา แล้วก็ยังมีระบบดาว ที่เราเองก็สามารถปลดล็อคให้กับโปเกมอนของเราได้อีกด้วย